#SundayWellSpent เดินเล่นท่าเตียน แวะเวียนย่านเก่ากรุงเทพ

มีทั้งโบราณสถาน พิพิธภัณฑ์ ร้านอาหารและคาเฟ่มากมาย ที่สามารถใช้เวลาวันอาทิตย์ไปพักผ่อน กิน ดื่ม เที่ยวได้ตลอดทั้งวัน

#SundayWellSpent เดินเล่นท่าเตียน แวะเวียนย่านเก่ากรุงเทพ
© Siam2nite

สถานที่ท่องเที่ยวที่ถือได้ว่าเป็นแลนมาร์กสำคัญของกรุงเทพฯ อย่างย่านเก่าเขตพระนคร มีทั้งโบราณสถานอันสวยงาม พิพิธภัณฑ์ต่างๆ ร้านอาหารและคาเฟ่น่านั่งมากมาย ที่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติมาเดินสำรวจและซึมซับเสน่ห์แบบดั้งเดิมได้ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

ซีรีส์บทความ #SundayWellSpent ในครั้งนี้ จะพาไปตะลอนบริเวณซอย ‘ท่าเตียน’ ย่านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ระหว่างวัดวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) กับแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเราได้ไปเยือน 7 สถานที่น่าสนใจ ที่คุณสามารถใช้เวลาในวันอาทิตย์ไปพักผ่อน กิน ดื่ม เที่ยว ณ สถานที่เหล่านั้นได้ตลอดทั้งวัน

หากพร้อมมีวันสุขแล้วล่ะก็… เตรียมตัวออกเดินทางไปกับเราได้เลย! (ไม่เรียงลำดับ)

01

Rongros (โรงรส)

© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite

เดินเท้าจาก MRT สนามไชยประมาณ 500 เมตร ผ่านตรอกเล็กๆ บนถนนมหาราชไปยังบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาในย่านท่าเตียน จะพบกับร้านอาหารสุดโดดเด่นในสีเทา-กรมท่าร้านหนึ่ง ที่เปลี่ยนโรงรถเก่าให้กลายเป็น ‘โรงรส’ เสิร์ฟอาหารไทยในความทรงจำจากวัยเด็ก ตามสูตรเด็ดของครอบครัวที่ตกทอดรุ่นสู่รุ่น

บรรยากาศภายในร้านมีสไตล์เอเชียร่วมสมัยที่แฝงกลิ่นอายแบบจีนไว้อ่อนๆ มาพร้อมกับทัศนีภาพพระปรางค์วัดอรุณฯ ที่ถูกคั่นด้วยสายน้ำเจ้าพระยา ด้วยขนาดของร้านที่ไม่ใหญ่มากนัก ทุกที่นั่งจึงสามารถมองเห็นภาพดังกล่าวได้ถนัดตา ส่วนหลังคาโรงรสถูกออกแบบเป็นที่นั่งดินเนอร์โอเพ่นแอร์ ที่สามารถมองเห็นวิวได้โดยรอบ ในช่วงสุดสัปดาห์จะมีเซ็ตเพลงจากดีเจให้ทุกคนได้เพลิดเพลินตั้งแต่เย็นอีกด้วย

สำหรับเมนูอาหารไทยที่เสิร์ฟนั้น ล้วนแล้วแต่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นจากจังหวัดต่างๆ มาปรุงเป็นอาหารรสชาติเข้มข้น พร้อมเครื่องดื่มหลากชนิด ได้แก่ ชา, กาแฟ, น้ำผลไม้, สมูตตี้, ค็อกเทล, เบียร์, ไวน์ และแชมเปญ

เราได้ลอง พะแนงไก่เบญจา ไข่ต้ม ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ (280 บาท) เสิร์ฟคู่ผักเคียงและน้ำปลาพริกมะม่วง ซึ่งนำมาจัดเป็นเซ็ตบนถาดหวายได้อย่างน่ารัก ปลาแห้งแตงโมสิงห์บุรี (280 บาท) ที่นำปลาช่อนไปย่างเตาถ่าน แล้วนำไปโขลกจนฟู ก่อนคั่วด้วยน้ำตาลปี๊ปและหอมแดง ทานคู่กับแตงโมหั่นเต๋า และซิกเนเจอร์ค็อกเทล Ping Pong Show (320 บาท) ใช้จินเป็นเบส ผสมกับไซรัปเปลือกส้ม ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่และเลมอน มีสีสันสดใส

  • เวลาเปิดทำการ:

    ทุกวัน
    11.00 - 15.00 และ 17.00 - 22.00 น.

  • ช่องทางติดต่อ:

    โทร 02-106-2198
    ติดต่อ ทาง Facebook Messenger

02

Museum Siam (มิวเซียมสยาม)

© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite

เมื่อออกจาก MRT สนามไชย จะพบอาคารสีเหลืองอันโดดเด่นแห่งหนึ่งตั้งอยู่ คือ ‘มิวเซียมสยาม’ พิพิธภัณฑ์แห่งการเรียนรู้ที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับความเป็นไทยในหลายแง่มุม ที่เล่าผ่านเทคโนโลยีทันสมัยและกิจกรรมต่างๆ ให้ผู้ชมได้มีปฏิสัมพันธ์กับตัวนิทรรศการอย่างเพลิดเพลิน ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ นิทรรศการถาวร และนิทรรศการหมุนเวียน

นิทรรศการถาวรชุดปัจจุบันชื่อว่า ถอดรหัสไทย ที่บอกเล่าอัตลักษณ์และความเป็นไทยในมิติต่างๆ อาทิ สถาปัตยกรรม ประวัติศาสตร์ การแต่งกาย อาหาร ความเชื่อ ประเพณี การศึกษา ฯลฯ ซึ่งจัดแสดงอยู่ในห้องนิทรรศการทั้ง 14 ห้อง ล้วนแล้วแต่ตั้งคำถามชวนขบคิดว่า ความจริงแล้วความเป็นไทยคืออะไรกันแน่

ห้องที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษคือห้องเบอร์ 7: ไทย Only ที่จัดแสดงสิ่งของบ้านๆ ที่เราเห็นกันอยู่ในชีวิตประจำวันเช่น เครื่องปรุง เสื้อวิน ของไหว้ ซึ่งมันบอกเล่าอะไรบ้างนั้น ผู้อ่านก็ต้องไปเยือนมิวเซียมสยามด้วยตัวเองแล้วนำมาขบคิดกันเองอีกที!

ส่วนนิทรรศการหมุนเวียนนั้น จะอยู่ในห้องจัดแสดงบริเวณอาคารอเนกประสงค์ ซึ่งนิทรรศการล่าสุดที่พึ่งจบลงไปชื่อว่า พระนคร On The Move (5 พ.ย. 62 - 1 มี.ค. 63) เล่าเรื่องราวของศูนย์กลางพระนคร อย่างย่าน สามยอด-วังบูรพา-พาหุรัด ที่ได้รับอิทธิพลจากโลกตะวันตก วิถีชีวิต ธุรกิจต่างๆ จึงเปลี่ยนแปลงไปจากแต่ก่อน ที่นำเสนอผ่านรูปภาพ วัตถุต่างๆ อันน่าสนใจ

ถึงแม้นิทรรศการหมุนเวียนจะจบลงไปแล้ว แต่อีกเพียง 2-3 เดือน เราทุกคนก็จะได้ชมนิทรรศการใหม่กันอย่างแน่นอน ระหว่างนี้สามารถเข้าชมนิทรรศการ ถอดรหัสไทยกันได้ โดยค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 100 บาท และ นักเรียนนักศึกษา 50 บาท

  • เวลาเปิดทำการ:

    อังคาร - อาทิตย์
    10.00 - 18.00 น.

  • ช่องทางติดต่อ:

    โทร 02-225-2777 ต่อ 123
    ติดต่อ ทาง Facebook Messenger

03

Fine of Course (ไฟน์ออฟคอร์ส)

© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite

ในซอยเล็กๆ ชื่อว่าท่าเรือแดง มีร้านไอกรีมโฮมเมดพรีเมี่ยมขนาดกะทัดรัดสีแดงสดที่ชื่อว่า ‘Fine of Course’ ตั้งอยู่ ด้านในร้านมีจำนวนทั้งหมด 2 ชั้น ซึ่งตั้งใจตกแต่งให้มีความอาร์ต ผสานกลิ่นอายแบบผู้หญิงเอาไว้ จึงเห็นงานศิลปะหลากชนิดประดับไว้ทั่วบริเวณ ร้านมีบรรยากาศที่ค่อนข้าง
อบอุ่นและเป็นกันเอง จากการใช้โทนสีขาว-ครีมเป็นหลัก แซมด้วยสีสันจัดจ้านผ่านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต่างๆ อย่างสดใส

สถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนบ้านขนมหวาน ที่เสิร์ฟทั้งไอศรีม เครื่องดื่ม และของหวานหลายเมนู ที่เน้นที่สุดคือโฮมเมดไอศกรีม ซึ่งมีพร้อมเสิร์ฟถึง 18 รสด้วยกัน (สกู๊ปละ 69 บาท) โดยแบ่งเป็น 4 ประเภท ได้แก่ ไอศกรีมรสชาติเข้มข้น, ไอศกรีมรสเปรี้ยว, ไอศกรีมสำหรับคนกินมังสวิรัติและแพ้นมวัว และไอศกรีมรสชาติพิเศษที่เปลี่ยนเป็นประจำทุกเดือน เพื่อให้ลูกค้าได้ทานไอศกรีมรสใหม่ๆ อยู่เสมอ (ที่ผ่านมามีทั้งรสขนมเบื้องไส้เค็ม, รสไข่เค็ม, รสขนมปังปิ้ง น่าทานมาก!)

โดยรสชาติที่ทางร้านแนะนำว่ามาแล้วพลาดไม่ได้นั้น มีทั้ง งาดำ, รัมเรซิน, ชาไทย, ดาร์กช็อกโกแลต และกะทิมะนาวน้ำผึ้ง ซึ่งเรามีโอกาสได้ลองทานจำนวน 3 รส ได้แก่ เสาวรสมะม่วง งาดำ และชาไทย เสิร์ฟในโคนชาร์โคล ท็อปด้วยบราวนี่ครันช์โฮมเมด (207 บาท + โคน 15 บาท) หากทานที่ร้านก็จะเสิร์ฟในแก้วทรงสูง ผูกโบว์สีชมพูสุดน่ารัก

นอกจากนี้ยังมีเมนูขนมหวาน ที่รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อทานกับไอศกรีมโดยเฉพาะ อาทิ Black Cocorice เป็นวาฟเฟิลข้าวเหนียวดำ ทานคู่กับสังขยาและไอศกรีม หรือ Puffy Burry วาฟเฟิลกรอบ ท็อปด้วยครีมชีสโฮมเมดและซอสมิกซ์เบอร์รี่ ทานคู่กับไอศกรีมรสที่ต้องการ หากใครไม่ใช่สายขนมหวาน ทางร้านก็มีเครื่องดื่มประเภท สมูตตี้ ชา กาแฟ มิลค์เชก และอีกมากมายพร้อมให้บริการเช่นกัน

  • เวลาเปิดทำการ:

    พุธ - จันทร์
    10.30 - 19.00 น.

  • ช่องทางติดต่อ:

    โทร 065-696-9241

04

Long Tian (หลงเตียน)

© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite

มีหนึ่งคูหาเล็กๆ ในตรอกบนถนนท้ายวัง เป็นที่ตั้งของร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยาชื่อว่า ‘หลงเตียน’ ซึ่งมาพร้อมคอนเซ็ปต์การเน้นของไทย ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเครื่องดื่ม โดยตั้งใจทำร้านให้เป็นสถานที่ที่คนมาได้เรื่อยๆ ผ่านบรรยากาศสบายๆ และเป็นกันเอง ที่ไม่ได้เสริมเติมแต่งอะไรมากนัก ตัวร้านมีบริเวณอินดอร์และชั้นดาดฟ้าให้เลือกนั่งได้ตามใจชอบ

จุดเด่นของที่นี่คือทัศนียภาพของย่านตลาดท่าเตียน ที่ถูกล้อมรอบด้วยความสวยงามของพระปรางค์วัดอรุณ เจดีย์ วัดวังต่างๆ รวมถึงบ้านเรือนของผู้คนในย่านที่ถูกสายน้ำเจ้าพระยาคั่นกลาง สเน่ห์ของภาพที่เห็นก็จะแตกต่างกันไปตามช่วงเวลา ระหว่างที่รับประทานอาหารและชมบรรยากาศอย่างเพลิดเพลิน ยังมีดนตรีสดสร้างสีสันเป็นประจำทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (19.30-21.00 น.) โดยเป็นเพลงอีซี่ลิสเซ็นนิ่งไทยและสากลสลับกันไปอีกด้วย

สำหรับเมนูอาหาร ที่ร้านให้ความสำคัญกับอาหารไทยเป็นอย่างมาก โดยมีให้เลือกทานหลากชนิดเช่นประเภททานเล่น, ยำและสลัด, จานเคียง, จานหลัก. ซุปและแกง รวมถึงอาหารมังสวิรัติ โดยเรามีโอกาสได้ลองทานอาหารที่เรียกได้ว่าเป็นเมนูโปรดของลูกค้าหลงเตียนจำนวน 5 เมนู ได้แก่ หมูกรอบผัดพริกเกลือ (165 บาท) หมูกรอบจะมีความหอมของพริกกระเทียม แกงรัญจวน (135 บาท) เป็นแกงโบราณที่มีส่วนผสมของน้ำพริกกะปิ เนื้อหมู สมุนไพรและเครื่องปรุงรสต่างๆ รสชาติจะออกไปทางเค็มและมีกลิ่นหอม

สลัดมะม่วงสายบัวเหล้ารัม (190 บาท) เป็นเมนูคล้ายร้อนที่ร้านรับรองว่าไม่เคยทานที่ไหนมาก่อนแน่นอน โดยนำมะม่วงสุกแช่เย็น มิกซ์กับสายบัว แอปเปิ้ล และหอมแดง คลุกเคล้ากับน้ำสลัดสูตรพิเศษของทางร้านที่นำไปผสมกับเหล้ารัม ก่อนโรยด้วยผักชีลาว มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเล็กๆ ที่เข้ากันได้อย่างน่าแปลกใจ ผัดไทกุ้งสด (155 บาท) เมนูอาหารที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี ใช้น้ำผัดไทเป็นสูตรลับของร้าน และ ปลาหมึกย่าง (260/280 บาท) ที่นำหมึกกล้วยไปย่างถ่านประมาณ 15 นาที เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดโฮมเมดรสจัดจ้าน

ส่วนเครื่องดื่มยังคงคอนเซ็ปต์เน้นของไทย ซึ่งเสิร์ฟทั้งคราฟต์เบียร์ไทย เบียร์โลคัล วิสกี้ เหล้าไทยต่างๆ จากนั้นนำมาต่อยอดเป็นซิกเนเจอร์ค็อกเทล ที่มีเรื่องเล่าแฝงอยู่ เช่น เราได้ลอง Cinderella (150 บาท) ซึ่งชื่อค็ออกเทลมาจากการที่ร้านปิดเวลาเที่ยงคืนทุกวัน มีส่วนผสมของจิน ส้ม สับปะรด และเลม่อน

  • เวลาเปิดทำการ:

    ทุกวัน
    16.00 - 24.00 น.

  • ช่องทางติดต่อ:

    โทร 080-856-9492
    ติดต่อ ทาง Facebook Messenger

05

Ha Tien Cafe (ฮาเตียนคาเฟ่)

© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite

จากร้านหลงเตียน เดินมาประมาณ 270 เมตร จะพบกับคาเฟ่ยอดฮิตที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยประตูนกยูงที่ชื่อว่า ‘ฮาเตียน’ ซึ่งตกแต่งในสไตล์โอเรียนทัลมาผสมผสานกับกลิ่นอายแบบจีนและตะวันตกสุดโดดเด่น โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้และของโบราณต่างๆ มาประดับไว้ทั่วร้าน จึงเปรียบเหมือนโชว์เคสศิลปะที่เราสามารถชมได้โดยไม่เบื่อเลยทีเดียว

ร้านแบ่งออกเป็น 3 ชั้น ซึ่งการดีไซน์ทั้งสามชั้นก็ให้บรรยากาศที่แตกต่างกันเล็กน้อย โดยชั้นแรกใส่ความเป็นจีนเข้าไป จากอดีตที่บริเวณนี้เคยเป็นร้านขายยาจีนเก่ามาก่อน จึงเห็นว่ามีการใช้ตู้ยาเป็นเคาน์เตอร์บาร์สั่งอาหาร ตกแต่งด้วยหีบ ภาชนะสานด้วยไม้ไผ่ หรือชุดชามกังไส

ส่วนบริเวณชั้นสองจะเน้นสไตล์ตะวันออก มีการใช้กรอบรูปโบราณประดับโดยรอบ เลือกใช้โคมระย้าโบราณ เข้ากับชิ้นงานศิลปะอย่างสัตว์สตัฟฟ์ได้เป็นอย่างดี เมื่อขึ้นบันไดวนขึ้นมาชั้นสาม มีความร่มรื่นขึ้นด้วยการดีไซน์เป็นห้องกระจก และทากำแพงสีขาวสว่าง เมื่อมองออกไปเป็นสวนหย่อมสีเขียวขจีด้านนอก ซึ่งมีบรรยากาศแบบโฮมมี่กว่าชั้นอื่นๆ

สำรับเมนูเครื่องดื่ม ทางร้านพร้อมเสิร์ฟครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ อิตาเลียนโซดา หรือสมูตตี้ โดยเมนูแนะนำของฮาเตียนคาเฟ่ คือ กาแฟมะตูม (110 บาท) สิ่งแรกที่เด่นชัดคือกลิ่นหอมจางๆ ของมะตูม จากไซรัปมะตูมที่เคี่ยวเอง แล้วนำผสมลงไปในกาแฟรสเข้ม

ทานคู่กับสารพัดเมนูของหวานที่เรียงรายอยู่ในตู้บนเคาน์เตอร์ โดยมีทั้งเค้กช็อกโกเลต บลูเบอร์รี่ช็อกโกแลตมูส เค้กแครอต เค้กเลม่อน และอีกมากมายให้เลือกสรร แต่ที่ไม่ควรพลาดคือ New York Cheese Cake (180 บาท) ชีสเค้กที่มีรสชาติไม่หวานจนเกินไป ท็อปด้วยบราวนี่ สตรอว์เบอร์รีและบลูเบอร์รีสด ราดด้วยเมเปิลไซรัปและโรยผงช็อกโกแลต ที่เข้ากันอย่างลงตัว

  • เวลาเปิดทำการ:

    ทุกวัน
    10.00 - 20.00 น.

  • ช่องทางติดต่อ:

    โทร 081-302-0651

06

โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ

© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite

ด้านในวัดโพธิ์ปีกฝั่งตะวันออก มีศาลาเล็กๆ ตั้งอยู่ ซึ่งศาลาแห่งนี้เป็น ‘โรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ’ ต้นตำรับของศาสตร์การนวดแผนไทยอันมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ จึงพลุกพล่านไปด้วยชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ารับบริการนวดไทยวิถีดั้งเดิมตลอดทั้งวัน

ศาสตร์การนวดไทยตำรับวัดโพธิ์ มาจากสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ที่สมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ให้แพทย์ประจำราชสำนักทำจารึกแพทย์แผนโบราณลงบนหินชนวน ประดับไว้รอบพระมหาเจดีย์และศาลาต่างๆ

จากนั้นประมาณปี พ.ศ. 2399 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว​ (รัชกาลที่ 5) ได้สั่งให้แพทย์หลวงแปลตำรสแพทย์จากภาษาบาลี-สันสกฤต เป็นภาษาไทย และทำรูปเล่มตำราแบบนวดฉบับหลวงไว้ ต่อมา คณะแพทย์แผนโบราณ ก็ได้จัดตั้งสมาคมนี้ขึ้นเพื่อถ่ายทอดความรู้ด้านการนวดให้กับคนทั่วไป ในปีพ.ศ. 2505 และดำเนินการมาจนถึงปัจจุบัน

โดยโรงเรียนแพทย์แผนโบราณวัดพระเชตุพนฯ มีบริการนวดไทย นวดเท้า และนวดน้ำมันไพล มีอัตราค่าบริการตั้งแต่ 320 - 680 บาท หากใครเดินเล่นในย่านท่าเตียนแล้วเกิดความเมื่อยล้า ก็สามารถไปพักผ่อนร่างกายได้ เราขอแนะนำให้จองนวดล่วงหน้า เพราะวันธรรมดาค่อนข้างเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว และอาจต้องรอคิวนานสักเล็กน้อย (ซึ่งเราเชื่อว่าคุ้มค่ากับการรอคอยและเงินที่เสียไปแน่นอน!)

  • เวลาเปิดทำการ:

    ทุกวัน
    08.00 - 19.00 น.

  • ช่องทางติดต่อ:

    โทร 02-221-2974

07

The Roof Bar at Sala Rattanakosin (เดอะรูฟบาร์ แอท ศาลา รัตนโกสินทร์)

© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite

เมื่อเดินขึ้นไปยังชั้น 5 ของโรงแรม Sala Rattanakosin จะพบกับรูฟท็อปบาร์แลนด์เลานจ์แบบโอเพ่นแอร์สุดชิล ที่การตกแต่งแฝงกลิ่นอายของสแกนดิเนเวียนสุดเรียบง่ายเอาไว้ โดยเน้นใช้โทนสีขาว-ดำเป็นหลัก พื้นที่นั่งมีทั้งบาร์สูงหันหน้าหาแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อชมวิว หรือจะนั่ง ณ โต๊ะเล็ก เบาะโซฟาสบายๆ ด้านในที่หันหน้าเข้าวัดโพธิ์ ก็เพลินตาไม่น้อย

จุดเด่นคือทัศนียภาพโดยรอบ ที่ไม่ว่าคุณจะนั่งตรงบริเวณใด ก็สามารถเห็นภาพวัดวาอารามและเมืองกรุงที่สวยงามได้ถนัดตา ฝั่งตรงข้ามบาร์เป็นที่ตั้งของวัดอรุณที่ถูกคั่นกลางด้วยสายน้ำเจ้าพระยา ซึ่งสเน่ห์ของภาพดังกล่าวนั้น แตกต่างกันไปในเวลากลางวันและเวลากลางคืน (แน่นอนว่ายามพระอาทิตย์ตกดินน่าประทับเป็นอย่างมาก) บรรยากาศสุดชิลนี้เองที่เป็นสิ่งที่ทำให้ The Roof Bar at Sala Rattanakosin คลาคล่ำไปด้วยลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติตลอดทั้งวัน

สำหรับเมนูอาหาร เสิร์ฟทั้งอาหารตะวันตกและอาหารไทยอาทิ เบอร์เกอร์ หมูสะเต๊ะ ฟิชแอนด์ชิปส์ ฯลฯ ที่พลาดไม่ได้คือ BBQ Pork Spare Ribs (405 บาท) ซี่โครงหมูที่นำไปสโลว์คุกนานถึง 18 ชั่วโมง จากนั้นนำมาปรุงด้วยซอสบาร์บีคิวสูตรโฮมเมดของรเาน เสิร์ฟคู่กับผักดองและซอสบาร์บีคิวรสเข้ม ที่เข้ากันเป็นอย่างดี

ส่วนเมนูเครื่องดื่มนั้นมีครอบคลุมทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นไทยคราฟต์เบียร์ ค็อกเทล เหล้าสปิริตส์ สมูตตี้ ม็อกเทล น้ำผลไม้ต่างๆ รวมถึงไวน์ ซึ่งเมนูแนะนำของทางร้านที่เรามีโอกาสได้ลองได้แก่ The River (330 บาท) เครื่องดื่มสีเหลืองสดที่ใช้วอดก้าเป็นเบส ผสมกับไซรัปเปลือกส้ม เหล้าพีช น้ำมะม่วง น้ำสับปะรด และเสาวรส เครื่องดื่มสีชมชูคือ My Mai Tai (330 บาท) เบสเป็นโกลด์รัมและดาร์กรัม ผสมกับไซรัปเปลือกส้ม น้ำมะนาว และน้ำพันช์ ทั้งสองแก้วเป็นค็อกเทลรีเฟรชชิ่ง ค่อนข้างดื่มง่ายเลยทีเดียว

  • เวลาเปิดทำการ:

    ทุกวัน
    16.00 - 24.00 น.

  • ช่องทางติดต่อ:

    โทร 02-622-1388
    ติดต่อ ทาง Facebook Messenger

Klook.com

บทความอื่น

รวมบทความน่าสนใจ โดยทีม Siam2nite

  1. Samsung และ Thom Browne เปิดตัว Galaxy Z Flip รุ่นพิเศษ ดีไซน์เท่

    Samsung และ Thom Browne เปิดตัว Galaxy Z Flip รุ่นพิเศษ ดีไซน์เท่

    เมื่อโลกแห่งเทคโนโลยีและแฟชั่นเวียนมาบรรจบกัน กลายเป็นคอลเลคชั่นโทรศัพท์มือถือแห่งยุค ที่ทั้งเก๋และเท่ในเครื่องเดียว

    ไลฟ์สไตล์ · 27 กุมภาพันธ์ 2020
  2. 10 สุดยอด Earplugs ถนอมหู สำหรับสายคอนเสิร์ตและเฟสติวัลตัวจริง

    10 สุดยอด Earplugs ถนอมหู สำหรับสายคอนเสิร์ตและเฟสติวัลตัวจริง

    บอกลาอาการหูวิ้งด้วย 10 Earplugs ขั้นเทพ ที่สายปาร์ตี้ต้องพกติดตัวไว้ รับประกันความปลอดภัยสบายหู

    ไลฟ์สไตล์ · 24 กุมภาพันธ์ 2020
  3. สาวก Starbucks ห้ามพลาดกับ Sakura Collection 2020 จากญี่ปุ่น

    สาวก Starbucks ห้ามพลาดกับ Sakura Collection 2020 จากญี่ปุ่น

    สรุปมาให้แล้วกับคอลเลคชั่นบานสะพรั่งจาก Starbucks ญี่ปุ่น มีให้เลือกทั้งแก้วน้ำ การ์ด เครื่องดื่ม ฯลฯ บอกเลยว่ารีบจัดด่วน!

    ไลฟ์สไตล์ · 19 กุมภาพันธ์ 2020
  4. โมเดลฮีโร่ดับเพลิงสุดน่ารัก นำรายได้ช่วยเหลือสัตว์ในวิกฤติไฟป่า

    โมเดลฮีโร่ดับเพลิงสุดน่ารัก นำรายได้ช่วยเหลือสัตว์ในวิกฤติไฟป่า

    Funko วางจำหน่าย Pop Figures นักดับเพลิง เพื่อนำรายได้ช่วยเหลือสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติไฟป่าออสเตรเลีย

    ไลฟ์สไตล์ · 19 กุมภาพันธ์ 2020

ซีรีส์บทความ

เรื่องราวดีๆ ที่เราเลือกสรรมาอัพเดทให้คุณเป็นประจำ