บทสัมภาษณ์พิเศษ JP Candela

บทสัมภาษณ์พิเศษ JP Candela

JP Candela นั้นเป็นดีเจประจำของงานอีเว้นท์ซี่รี่ย์ชื่อดังอย่าง Pacha Ibiza World Tour และยังถูกเลือกจาก David Guetta ให้มาร่วมแสดงในงานปาร์ตี้สุดพิเศษที่มีชื่อว่า F*** Me I Am Famous ของเจ้าตัวอีกด้วย รวมไปถึงยังเป็นผู้ริเริ่มและมีอิทธิพลกับดนตรีสไตล์อิเล็กทรอนิกส์ของไอบีซ่า นอกจากนี้ยังเคยร่วมแสดงกับเหล่าศิลปินชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น David Guetta, Chuckie, Pete Tong, Showtek, Dennis Ferrer และอีกมากมาย โดยผลงานเพลงของ Kas James อย่าง "Kids" ที่เขานำมารีมิกซ์ใหม่นั้น ถูกยกย่องโดย Pete Tong ให้เป็นหนึ่งในสิบเพลงที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ Miami WMC in 2012

Siam2nite ได้มีโอกาสสัมภาษณ์สุดพิเศษกับ JP Candela ก่อนที่เขาจะมาทำการแสดงที่ Insanity Nightclub ในวันที่ 29 มกราคม

คุณเป็นดีเจและโปรดิวเซอร์จากสเปน ที่ได้รับโอกาสไปเป็นแขกรับเชิญในงานปาร์ตี้ของ David Guetta กับงานที่มีชื่อว่า F*** me I'm Famous ที่ร้าน Pacha Ibiza ซึ่งถือเป็นอะไรที่พิเศษ หากมองย้อนกลับไปคุณเริ่มงานดีเจและโปรดิวเซอร์ได้อย่างไร?

ตอนที่ผมรู้จักกันดนตรีสไตล์ EDM มันเกิดขึ้นในยุค 90s เป็นตอนที่ผมกำลังหลงใหลกับสไตล์ดนตรีทุกแนว แต่ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์นั้นเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของผมอย่างรวดเร็ว และมันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมซื้ออัลบั้มเพลงมาฟัง ส่วนการแสดงครั้งแรกของผมนั้น ผมไปเล่นในงานปาร์ตี้ส่วนตัวให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันสนุกๆ หลังจากนั้นผมก็เริ่มติดต่อไปยังคลับและโปรโมเตอร์หลายๆ แห่งในเมือง และเริ่มเล่นที่บ้านเกิดของผมในกรุงมาดริด โดย Pacha Madrid เป็นคลับแรกของผมที่ผมได้เข้าไปเล่นเมื่อปี 2002 หลังจากนั้นก็ย้ายไปที่ Pacha Ibiza และ FMIF พร้อมกับเริ่มทำงานเพลงของตัวเองในปีเดียวกัน ซึ่งตรงนี้ถือเป็นส่วนสำคัญของอาชีพของพวกเราเลยนะ ถือเป็นรากฐานที่วางเอาไว้เพื่อให้มีการพัฒนาไปในระดับที่สูงขึ้นจนทุกวันนี้ และในช่วงเวลานั้นผมก็ได้ทำเพลงออกมากับค่ายเพลงอย่าง Spinning, Dirty Dutch, What a Music, Oxygen , MOS, Sony และ EMI อีกด้วย

คุณเป็นดีเจและโปรดิวเซอร์สไตล์ House, Electro House และ Progressive House คุณช่วยนิยามสไตล์เพลงของคุณให้เราฟังหน่อย?

ผมทำดนตรีที่เข้าได้ดีกับตัวผม ผมไม่ได้ทำเพลงตามกระแส ซึ่งผมคิดว่าการได้ทำงานเพลงเองนั้น มันได้ให้ความคิดสร้างสรรค์กับผมอย่างมาก มันเป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกเอนจอยมากๆ

คุณได้รีมิกซ์เพลง Kids ของ Kaz James จนได้รับการยกย่องจาก Pete Tong ให้เป็นหนึ่งใน 10 เพลงที่ดีที่สุดของงาน Miami WMC in 2012 ยังมีผลงานเพลงอื่นที่คุณอยากจะแนะนำให้คนที่ยังไม่เคยฟังผลงานของคุณ ได้ลองฟังดูบ้าง?

ผมคิดว่าผลงานชิ้นสำคัญของผมในสายอาชีพนี้ ก็คือการรีมิกซ์เพลงของ David Guetta ซึ่งตอนนี้ผมทำเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว 3 เพลง ไม่ว่าจะเป็น Memories ที่ทำร่วมกับ Kid Cudi, Turn me on ที่ทำร่วมกับ Nicki Minaj และ Bang my Head ที่ทำร่วมกับ Sia นอกจากนี้ก็มีผลงานที่เพิ่งทำเสร็จเรียบร้อยให้กับ Showtex กับเพลงฮิตของพวกเขาอย่าง Booyah หรือผลงานที่ผมทำร่วมกับ Albert Neve อย่างเพลง FutureRave

ตอนนี้คุณกำลังโฟกัสไปที่ผลงานอะไร และเป้าหมายของคุณในอนาคตคืออะไร?

ในตอนนี้ผมกำลังอยู่ในช่วงทัวร์เอเชีย เตรียมพร้อมจะไปทำการแสดงที่ กรุงเทพ, เกาะสมุย, และสิงคโปร์ หลังจากนั้นก็จะมีงานต่อที่เบอร์ลิน รวมไปถึงยังจะมีทัวร์ที่ลาติน-อเมริกา และที่ประเทศอมริกาอีกด้วย หลังจากนั้นก็จะกลับไปที่สเปน ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนของไอบิซ่าพอดี ซึ่งตอนนี้ผมกำลังโฟกัสไปที่เรื่องการทำเพลง เตรียมตัวสำหรับการทำเพลงใหม่, การริมิกซ์เพลง และการทำงานร่วมกับคนอื่นๆ

คุณคิดว่าการแสดงใดที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด และมีเหตุการณ์ตลกๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการแสดงบ้างมั้ย?

ด้วยความสัตย์จริงเลย ผมคิดว่าการแสดงที่ดีที่สุดก็คือการที่ผมได้ทำการแสดงครั้งแรกที่ FMIF ใน Pacha Ibiza ในฐานะดีเจประจำร้าน วันนั้นเป็นโอกาสที่ทำให้ผมได้พบกับ David Guetta ซึ่งเขาชอบผลงานของผม มันเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปตลอดกาล ผมมักจะพูดเสมอว่างานสายอาชีพนี้ต้องอาศัยทั้ง โชค, การทำงานหนัก และความคงเส้นคงวา แล้ววันหนึ่งทุกสิ่งทุกอย่างจะพิสูจน์ออกมาให้คุณเห็นเอง

แต่ถ้าเอาจริงๆ เลยคือผมไม่ค่อยมีช่วงเวลาที่แย่ๆ นัก เพราะผมเชื่อว่าเราสามารถเรียนรู้บางอย่างจากวันที่ไม่ค่อยปกติ และใช้สิ่งนั้นเปลี่ยนให้เป็นโอกาสเพื่อทำให้ตัวเองเป็นดีเจที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งก็หมายถึงวันแย่ๆ จะกลายเป็นสิ่งที่ดี

คุณอาศัยอยู่ที่ไอบีซ่า แต่ก็ยังอยู่ที่เมืองมาดริดด้วย ซึ่งถือเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสเปน คุณช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมว่าคลับและไนท์ไลฟ์ของที่นั่นเป็นอย่างไรบ้าง?

อันที่จริงแล้ว ผมอาศัยอยู่ระหว่าง ไอบิซ่า, มาดริด และบาเลนเซีย สำหรับไนท์ไลฟ์ที่มาดริดนั้น เพิ่งจะได้รับความเดือนไปเมื่อเร็วๆ นี้ เพราะมีอะไรหลายๆ อย่างเปลี่ยนไป แต่ผมคิดว่ากำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟู ซึ่งคลับดังๆ อย่าง Fabrik, Mondo หรือ Goya Social Club ก็ยังทำหน้าที่กันได้ดี นอกจากนี้ยังมีโปรโมเตอร์ยักษ์ใหญ่อย่าง Zoologico รวมไปถึงยังมีคลับสไตล์คลาสสิคอย่าง Gabana และ Teatro Barcelo อีกด้วย

ในวันที่ 29 มกราคม คุณจะได้มาทำการแสดงในกรุงเทพ ที่ร้าน Insanity Nightclub คุณเคยมาเมืองไทยมั้ย? และคุณมีอะไรพูดฝากถึงแฟน ๆ ชาวไทยที่ไปชมคุณแสดงในวันนั้นบ้าง?

แน่นอน ผมเคยมาที่เมืองไทยแล้วในวันหยุดของผม และเอนจอยกับชายหาดที่สุดวิเศษของเมืองไทย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมจะมาทำการแสดงที่นี่ และผมรู้สึกตื่นเต้นกับมันมากๆ เวลาที่มีคนมายกย่องให้ผมเป็นคนที่สุดยอด และผมดีใจที่ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอผม ผมตั้งหน้าตั้งตารอที่จะมอบทุกสิ่งทุกอย่างที่ผมมีให้กับชาวกรุงเทพในคืนวันแสดงของผม แล้วพบกันในเร็วๆ นี้ ไทยแลนด์

บทความอื่น

รวมบทความน่าสนใจ โดยทีม Siam2nite

  1. บทสัมภาษณ์พิเศษ GTA

    บทสัมภาษณ์พิเศษ GTA

    GTA เป็นดูโอ้ดีเจและโปรดิวเซอร์สัญชาติอเมริกันจากเมืองไมแอมี ดนตรีของพวกเขามีหลากหลายสไตล์ทั้ง Electro House, Progressive House, Moombahton และ Tra...

    ดนตรี · 21 ธันวาคม 2015
  2. บทสัมภาษณ์พิเศษ Oliver Heldens

    บทสัมภาษณ์พิเศษ Oliver Heldens

    Oliver Heldens ได้เซ็นต์สัญญากับค่ายเพลงอย่าง Spinnin’ Records ตั้งแต่อายุ 17 ปี ในเวลาต่อมาเพลงของเขาอย่าง Gecko ถูกปล่อยออกมาตอนเขาอายุ 18 ซึ่งก...

    ดนตรี · 11 ธันวาคม 2015
  3. บทสัมภาษณ์พิเศษ DJ Lady S

    บทสัมภาษณ์พิเศษ DJ Lady S

    DJ Lady S เป็นดีเจที่มีการเปิดเพลงหลากหลายสไตล์ แต่ทุกคนจะรู้จักเธอกับสไตล์ Pumping Hip Hop และ R&B ทั้งนี้เธอยังเป็นส่วนหนึ่งของทีมดีเจอย่าง The H...

    ดนตรี · 11 ธันวาคม 2015
  4. บทสัมภาษณ์พิเศษ Dana Jasmine

    บทสัมภาษณ์พิเศษ Dana Jasmine

    Dana Jasmine เป็นดีเจและโปรดิวเซอร์ดนตรีสไตล์ EDM ที่น่าหลงใหลจากเมืองเคียฟ ประเทศยูเครน และยังเคยถูกจัดอันดับให้อยู่ในอันดับที่ 3 ของ Top 10 World...

    ดนตรี · 11 ธันวาคม 2015

ซีรีส์บทความ

เรื่องราวดีๆ ที่เราเลือกสรรมาอัพเดทให้คุณเป็นประจำ