บทสัมภาษณ์พิเศษ JAUZ

บทสัมภาษณ์พิเศษ JAUZ

JAUZ ดีเจและโปนดิวเซอร์หนุ่มวัย 22 ปีจากลอสแองเจลิส ซึ่ง Tujamo เชื่อว่าเขาเป็นดีเจที่มาแรงที่สุดแห่งปี 2015 โดยดนตรีของเขาจะเป็นการผสมผสานกันของสไตล์ Electro House, Future House, Trap และ Dubstep พร้อมด้วยเสียงเบสหนัก ๆ

สยามทูไนท์มีบทสัมภาษณ์สุดพิเศษจาก JAUZ มาฝากสาวกปาร์ตี้ชาวไทย ก่อนที่เขาจะมาทำการแสดงที่งาน Road To Ultra Thailand 2016 ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้

คุณอยู่ที่ไหน ขณะที่กำลังตอบบทสัมภาษณ์นี้?

ผมกำลังเขียนบทสัมภาษณ์นี้ตอนที่กำลังเดินทางจากแอลเอ ไปญี่ปุ่น จากนั้นก็ต่อด้วยกรุงเทพครับ ผมอยากไปถึงเร็ว เพื่อที่จะได้ใช้เวลาส่วนตัวในประเทศไทยก่อนที่จะแสดงที่งาน Road to Ultra ครับ

มันมีน้อยครั้งมาก ที่ผมจะมีเวลาเที่ยวในประเทศที่ผมไปแสดง ดังนั้นผมจึงตื่นเต้นมากเป็นพิเศษครับที่จะได้เที่ยวในประเทศไทย รวมไปถึงการดื่มกาแฟเย็นของไทยครับ ผมชอบมาก ๆ เลย

คุณเป็นดีเจและโปรดิวเซอร์จากแอลเอที่อายุเพียงแค่ 22 ปีเท่านั้น คุณได้รับการยอมรับจาก Tujamo ว่าเป็นดีเจที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2015 คุณรู้จักกับดนตรีสไตล์ Electronic Dance จากที่ไหน และคุณเริ่มงานดีเจได้อย่างไร?

ผมเริ่มมาข้องเกี่ยวกับดนตรีอิเล็คทรอนิคส์ตอนที่ผมเป็นมือกีต้าร์ในวงดนตรีเมทัลครับ ผมเริ่มที่สไตล์ Dubstep ซึ่งก็เป็นเหมือนสไตล์ metal ของ EDMและจากนั้นผมก็เริ่มทำเพลงอิเล็คทรอนิคส์โดยใช้แล็ปท็อปครับ

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมก็ชอบและก็พยายามทำงานแต่ละงานออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ!

คุณเล่นและโปรดิวซ์ผลงานสไตล์ bass-heavy ผสมกับ Electro House, Future House, Trap, Dubstep และอีกมากมาย คุณช่วยนิยามสไตล์เพลงของคุณให้เราฟังหน่อย?

ผมคิดว่าสไตล์ดนตรีของผม ก็คือ การไม่มีสไตล์ครับ มันมีอะไรที่แตกต่างออกไปตลอดเวลา ยากที่จะนิยามมันออกมาเป็นสไตล์ใด สไตล์หนึ่งครับ

เวลาที่ผู้คนบอกผมว่า พวกเค้าไม่สามารถแยกแยะสไตล์การเล่นหรือแนวดนตรีของผมได้นั้น ผมก็รู้เลยว่า ผมได้ทำงานของผมได้มาถูกทางแล้ว

คุณเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีกับผลงาน "Rock The Party", "Deeper Love" และ "Squad Out!" (กับ Skrillex) นอกจากนี้ยังมีผลงานเพลงอื่นอีกไหม ที่คุณอยากจะแนะนำให้คนที่ยังไม่เคยฟังผลงานของคุณ ได้ลองฟังดูบ้าง?

ผมคงจะแนะนำ Feel the Volume ครับ เพราะว่า มันเป็นแทร็กที่สร้างชื่อเสียงให้ผมเลยก็ว่าได้ครับ และมันก็เป็นแทร็กแรกที่ทำให้ Diplo จำผมได้ครับ

รวมไปถึง เพลงสไตล์ bass heavy ผมก็คงจะแนะนำรีมิกซ์เพลงของ Knife Party’s “Plur Police” หรือ, “Pure Evil” ที่ผมทำร่วมกับ Sullivan King ประมาณนี้ครับ

ตอนนี้คุณกำลังโฟกัสไปที่ผลงานอะไร และเป้าหมายของคุณในอนาคตคืออะไร?

ผมชอบที่จะทำผลงานร่วมกับเพื่อน ๆ และศิลปินอื่น ๆ ที่ผมชื่นชมครับ เพราะฉะนั้นก็จะมีผลงานอีกหลาย ๆ อันตามออกมาเร็ว ๆ นี้ ผมคิดว่าตอนที่บทสัมภาษณ์นี้ออกออนไลน์ ผมคงจะปล่อยผลงานใหม่ที่ทำกับ Ghastly ที่มีชื่อว่า “Ghosts and Sharks” ออกมาแล้วครับ และนั้นก็เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้นนะครับ!

ตั้งแต่ผลงานสไตล์ House ไปจนถึง Dubstep, Future Bass, Trap, ผมจะมีผลงานใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ ครับ :)

คุณได้เล่นที่คลับดัง ๆ และเฟสติวัลใหญ่ ๆ ระดับโลกมาแล้วมากมาย คุณคิดว่าการแสดงใดที่ดีที่สุดและแย่ที่สุด และมีเหตุการณ์ตลกๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการแสดงบ้างมั้ย?

บอกตามตรง ผมคิดว่าผมคงจะเลือกไม่ได้หรอกครับ ผมคิดว่า ถึงบางงานจะไม่ได้เยี่ยมที่สุด แต่ก็ไม่เคยถึงขั้นแย่สุด ๆ เหมือนกัน ผมรู้สึกดีมากที่ได้มีโอกาสได้ไปเล่นตามสถานที่ดัง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคลับหรือเฟสติวัลก็ตาม ดังนั้นทุกโชว์ก็เลยมีความหมายกับผมมาก มันเลยยากที่จะรู้สึกแย่ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้เพอร์เฟ็คก็ตาม

และในส่วนของโชว์ที่ดีที่สุด มันไม่เกี่ยวว่าคนดูจะเยอะมากแค่ไหน หรือไฮโซ หรือเป็นงานดังแค่ไหนก็ตาม แต่มันขึ้นอยู่กับคุณภาพและความสนุกของคนดูครับ

บางงานก็เป็นงานที่เล็กมาก มีคนดูเพียงไม่มาก ในห้องเล็ก ๆ แต่ความมันส์ในวันนั้นมันบ้ามาก และมันก็ทำให้ผมมีความสุขและยิ้มแบบหุบไม่ได้เลยครับ

คุณอาศัยอยู่ในแอลเอ ซึ่งเป็นเมืองฮ็อตฮิตของอเมริกา รองจากนิวยอร์ก คุณช่วยเล่าถึงการปาร์ตี้และไนท์ไลฟ์ของที่นั่นให้เราฟังหน่อยได้มั้ย? มีคำแนะนำให้คนที่จะไปลองสนุกกับการเที่ยวที่นั่นเป็นครั้งแรกบ้างมั้ย?

ชีวิตของผมตอนนี้ อยู่ในช่วงทัวร์ซะเยอะ ดังนั้นเวลาที่ผมอยู่บ้าน ผมจึงไม่ค่อยอยากออกไปไหนเลย ฮาฮ่า ความสนุกของผมคือการได้เล่นวิดีโอเกมส์อยู่ที่บ้านและนอนเล่นบนโซฟาและผ่อนคลายมากกว่าครับ

ถ้าคุณจะไปแอลเอเป็นครั้งแรก มันมีอะไรให้คุณได้ไปลองอยู่แล้วล่ะ ถ้าเป็นประาบการณ์เกี่ยวกับผับแล้วล่ะก็ มันก็มีทั้ง Control Fridays ที่ Avalon, ที่ Space Yacht ในวันอังคาร, หรือ Havoc Thursdays ใน Santa Ana

แล้วก็ยังมีคลับอีกเป็นล้านเลย ที่มีโชว์เยอะแยะเต็มไปหมด ในแถว ๆ Downtown LA, หรือ Observatory ที่ Orange County, หรือถ้าคุณอากลองไป San Diego, Bassmnt ก็น่าสนุกเหมือนกันครับ

หรือถ้าคุณชอบอะไรที่หรู ๆ หน่อย ก็คงจะเป็นในโซนฮอลลีวู้ด ที่เหล่าบรรดาเซเลบไปกันบ่อย ๆ อย่าง Omnia ใน San Diego และ Sutra ใน Orange County หรือ Exchange ใน Downtown LA, สำหรับผม คงจะแนะนำเป็นแบบ 2 สไตล์เลย ทั้งแบบเอามันส์และแบบหรู ๆ ต้องไปลองเองครับ

ในวันที่ 11 มิถุนายนนี้ คุณจะมาทำการแสดงเดบิวต์เป็นครั้งแรกในไทยในงาน Road To Ultra Thailand 2016 คุณเคยมาเมืองไทยมั้ย? และคุณมีอะไรจะฝากถึงแฟน ๆ ชาวไทยที่ไปชมคุณแสดงในวันนั้นบ้าง

ผมไม่เคยไปประเทศไทนเลยครับ และผมก็ตื่นเต้นมากที่จะได้ไปเที่ยวก่อนที่จะถึงวันแสดงจริง ทุกครั้งที่ผมได้ไปแสดงในที่ใหม่ ๆ ผมมักจะตื่นเต้นอยู่เสมอ และสุดท้ายผมก็ลงเอยด้วยการเล่นสไตล์ของผมเองนั่นแหละ

ผมคิดว่าผมจะเล่นสไตล์ของผมเอง นั่นคงจะเป็นอะไรที่แฟน ๆ น่าจะพอใจและแฮปปี้ และมีช่วงเวลาที่สนุกไปด้วยกันอย่างแน่นอนครับ!

บทความอื่น

รวมบทความน่าสนใจ โดยทีม Siam2nite

  1. บทสัมภาษณ์พิเศษ Manse

    บทสัมภาษณ์พิเศษ Manse

    Manse ดีเจและโปรดิวเซอร์วัย 24 จากประเทศสวีเดน และยังเป็นหนึ่งในดาวรุ่งของค่าย Revealed Recordings ของ Hardwell อีกด้วย ในปี 2013 เขาได้ก้าวเข้าสู่...

    ดนตรี · 25 เมษายน 2016
  2. Rap Is Now: ฮิปฮอปยังไม่ตายและยังคงดีอยู่ในปัจจุบัน

    Rap Is Now: ฮิปฮอปยังไม่ตายและยังคงดีอยู่ในปัจจุบัน

    คุณเคยโยนห่วงโยโย่ไหม? โยโย่เมื่อคุณโยนมันลงไปต่อให้มันดิ่งลงไปต่ำสุดแค่ไหน มันก็จะเด้งขึ้นมาแรงกลับเท่านั้น ดนตรีฮิปฮอปก็เช่นกัน ที่เปรียบเสมือนโย...

    ดนตรี · 25 เมษายน 2016
  3. บทสัมภาษณ์พิเศษ Michael Calfan

    บทสัมภาษณ์พิเศษ Michael Calfan

    Michael Calfan เป็นดีเจและโปรดิวเซอร์ดนตรีสไล์ House จากฝรั่งเศส เขาเป็นที่รู้จักจากผลงานเพลง "Treasured Soul" และ "Nobody Does It Better"แนวดนตรีข...

    ดนตรี · 17 เมษายน 2016
  4. บทสัมภาษณ์พิเศษ DJ Mari Ferrari

    บทสัมภาษณ์พิเศษ DJ Mari Ferrari

    DJ Mari Ferrari ดีเจและโปรดิวเซอร์สาวสวยจากรัสเซีย ที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ โดยเธอเล่นมาแล้วกว่า 50 ประเทศทั่วโลกและยังได้เล่นในเฟสติวัลระดับโลกอย...

    ดนตรี · 16 เมษายน 2016

ซีรีส์บทความ

เรื่องราวดีๆ ที่เราเลือกสรรมาอัพเดทให้คุณเป็นประจำ