เปิดลายแทง! ตามล่า 6 ร้านเด็ดที่เสิร์ฟเนื้อวากิวที่ดีที่สุดในกรุงเทพ

ความพิเศษของเนื้อวากิวก็คือ ความนุ่มและความชุ่มฉ่ำแบบสุด ๆ โดยความพรีเมี่ยมของเนื้อชนิดนี้ ก็เริ่มมาจากการเลี้ยงวัวเลย โดยวัวที่ให้เนื้อวากิวเป็นพันธุ์ที่ต้องเลี้ยงแบบดูแลเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศที่เงียบสงบ อากาศที่เย็นและถ่ายเทสบาย และต้องให้อาหารที่มีเส้นใยมาก ๆ อย่างเช่น ข้าวสาลี ข้าวโพด หญ้าแห้ง รวมไปถึงการให้วัวดื่มเบียร์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อให้วัวอ้วนสมบูรณ์และผ่อนคลาย และวัวต้องออกกำลังน้อยที่สุดเพื่อที่จะได้มีไขมันแทรกสูงที่สุด

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นอกจากจะเป็นเนื้อที่มีรสชาติดีที่สุดแล้ว ราคาของเนื้อชนิดนี้ก็สูงไม่ใช่เล่นอีกด้วย เพราะเนื้อชนิดนี้ต้องสั่งนำเข้ามาจากต่างประเทศเท่านั้น โดยเนื้อวากิวนั้นจะถูกคัดเกรดตั้งแต่ระดับ C 1 ถึง 5 ไปจนถึงเกรด A 1 ถึง 5 โดยระดับ A5 ถือเป็นเกรดที่ดีที่สุดนั่นเอง เราเข้าใจคนรักเนื้ออย่างพวกคุณดี เราจึงขอพาคุณมารู้จักกับ 6 ร้านที่เสิร์ฟเนื้อวากิวที่ดีที่สุด ที่คุณสามารถหาทานได้ในกรุงเทพ! โดยรายชื่อร้านไม่ได้เรียงลำดับแต่อย่างใด

1) Sumi Tei Yakiniku (ซุมิเต ยากินิขุ)

Sumi Tei Yakiniku เป็นร้านยากินิขุ หรือร้านอาหารสไตล์ปิ้งย่าง ที่เสิร์ฟเนื้อวากิวเกรด A5 ซึ่งเป็นเกรดที่ดีที่สุด โดยที่นี่ เนื้อวากิว A5 แต่ละจานนั้น จะมีใบ Certificate ที่ชี้แจงรายละเอียดของเนื้อจานนั้น ๆ มาด้วย เรียกได้ว่า พรีเมี่ยมสุด ๆ

ทางร้านเอาใจคนที่อยากทานแบบไม่อั้น ด้วยการจัดบุฟเฟต์เดือนละ 1 ครั้ง ทุกวันพุธแรกของเดือน โดยราคาบุฟเฟต์อยู่ที่ 3,999+++ บาท โดยให้เวลาทานถึง 2.30 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่สงวนสิทธิ์สำหรับลูกค้าที่จองล่วงหน้าเท่านั้น ส่วนวันอื่น ๆ ที่นี่จะบริการแบบ A La Carte เป็นหลัก โดยจานเด็ดของที่นี่มีชื่อว่า The Imperial Set ซึ่งเป็นการรวมเนื้อวากิวเกรด A5 เข้าไว้ด้วยกัน สนนราคาอยู่ที่จานละ 3,680 บาท

The Imperial Set ราคา 3,680 บาท

เวลาเปิด: วันจันทร์-วันศุกร์ 17.00-22.00 น., วันเสาร์-วันอาทิตย์ 11.30-14.00 น. และ 17.00-22.00 น.
ที่ตั้งร้าน: 9:53 Community Mall, ทองหล่อซอย 9
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook หรือ เว็บไซต์ หรือโทร 091-770-7747

2) O-Jung Premium Yakiniku (โอจัง พรีเมี่ยม ยากินิขุ)

O-Jung Premium เป็นร้านสไตล์ปิ้งย่างที่เสิร์ฟเนื้อวากิวระดับพรีเมี่ยมนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น การบริการของร้านนี้มีทั้งแบบ A La Carte และบุฟเฟต์ โดยบุฟเฟต์อยู่ที่ราคาท่านละ 690 บาท จำกัดเวลาทาน 90 นาที แต่แบบบุฟเฟต์จะสามารถสั่งได้แค่เนื้อวากิวเกรดธรรมดาเท่านั้น โดยราคานี้รวมไปถึงบุฟเฟต์ของหวานและผลไม้ไทยฟรีจากทางร้านแล้ว

ในส่วนของ A La Carte ที่มีเนื้อวากิวระดับพรีเมี่ยม A5 ให้ได้เลือก โดยจานเด็ดของร้านนี้ มีชื่อว่า Kuroge Premium เนื้อวากิวเกรด A5 ไซส์บิ๊กเบิ้มที่คัดสรรมาอย่างดี ไขมันแทรกซึมทั่วทั้งชิ้น จานนี้สนนราคาอยู่ที่ จานละ 5,000 บาท!

เซ็ท Kuroge Premium ราคา 5,000 บาท

เวลาเปิด: ทุกวัน 11.00-23.00 น.
ที่ตั้งร้าน: มี 2 สาขา คือ Seenspace, ทองหล่อซอย 13 และ สาขารัชดา, รัชดาซอย 18
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook หรือโทร 02-185-2392

3)  ITO-KACHO (อิโต-คาโจ)

ร้าน ITO-KACHO อีกร้านสไตล์ยากินิขุ ตั้งอยู่ที่ Nihonmura Mall ซอยทองหล่อ 13 ซึ่งร้านนี้เป็นสาขาที่ 2 ที่ทางร้านมาเปิดนอกประเทศญี่ปุ่น โดยอีกร้านก่อนหน้าเปิดที่ประเทศสิงคโปร์ ความพิเศษของร้านนี้ ก็คือ เนื้อวากิวที่ใช้เป็นเนื้อ Black Wagyu เกรด A ระดับพรีเมี่ยมส่งตรงจากคิวชู ประเทศญี่ปุ่น

โดยการบริการของที่นี่ มีให้เลือกทั้งแบบบุฟเฟต์และ A La Carte ซึ่งแบบบุฟเฟต์ราคาอยู่ที่ 3,999+++ บาท จำกัดเวลาทานได้ 2 ชั่วโมง โดยนอกจากเนื้อวากิว ก็ยังมีบรรดา หมู ไก่ ซีฟู้ด ไว้บริการอีกด้วย และในส่วนของ A La Carte เมนูเด็ดของที่นี่ก็คือ เซ็ทมัตซึ ที่รวมเอาเนื้อวากิว 6 ชนิดเข้าด้วยกัน ได้แก่ เนื้อแบล็ควากิวโรสึ, โทกุโจบาระ, โทโมะบาระ, นากะบาระ, ไคโนมิ และเนื้อหมัก สนนราคาอยู่ที่ 3,580 บาท

เซ็ทมัตซึ ราคา 3,580 บาท

เวลาเปิด: ทุกวัน 17.00-23.00 น.
ที่ตั้งร้าน: Nihonmura Mall, ทองหล่อซอย 13
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ หรือโทร 02-185-3338

4) Wagyu Kamada (วากิว คามาดะ)

ร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่น ที่ตกแต่งร้านแบบอารมณ์ญี่ปุ่นแท้ ๆ โดยเนื้อวากิวของที่นี่เป็นเนื้อระดับเกรด A4 สั่งตรงมาจากคาโกชิมา ประเทศญี่ปุ่น โดยทีเด็ดของการทานเนื้อวากิวที่นี่ก็คือ เนื้อจะถูกเสิร์ฟมาในจานที่มาพร้อมกับหินร้อนขนาดเล็กกะทัดรัดที่คุณสามรถทำการย่างได้เอง อยากได้สุกประมาณไหนก็สามารถทำเองได้เลย

โดยจานเด็ดของที่นี่ก็คือ เซ็ทสเต็กวากิวสันใน ซึ่งเป็นส่วนที่นุ่มที่สุด มาพร้อมกับข้าวญี่ปุ่น, ผักย่าง, สลัด, และซุปในเซ็ท โดยราคาอยู่ที่เพียงเซ็ทละ 1,400 บาท ซึ่งถือว่า ถูกและคุ้มมาก ๆ สำหรับเนื้อวากิวเกรด A4! นอกจากเนื้อวากิวแล้ว ที่นี่ก็ยังมีอาหารญี่ปุ่นอื่น ๆ ให้เลือกทานกันอีกด้วย

เซ็ทสเต็กวากิวสันใน ราคา 1,400 บาท

เวลาเปิด: ทุกวัน 11.00-22.00 น.
ที่ตั้งร้าน: เมอร์คิวรี่ วิลล์ ชั้น 3, BTS ชิดลม
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook หรือโทร 02-253-2915

5) Mamiya (มามิยะ)

ร้าน Mamiya ร้านสไตล์ปิ้งย่าง ตั้งอยู่ในโครงการนาราเพลส ซอยสาธุประดิษฐ์ 19 โดยร้านนี้เปิดบริการมาตั้งแต่ปี 2012 และเป็นร้านยากินิขุร้านแรกของไทยที่ใช้เตาย่างแบบ smokeless หรือระบบไร้ควันนำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น

บริการของที่นี่เป็นแบบ A La Carte เท่านั้น เนื้อวากิวของที่นี่ก็เป็นเกรดพรีเมี่ยมระดับ A4 และ A5 และมีให้เลือกหลาย ๆ ส่วนด้วยกัน โดยจานเด็ดของที่นี่ คือเนื้อวากิวเทนเดอร์ลอยเกรด A5 ที่ทางร้านรับประกันเรื่องความนุ่ม และไขมันแทรกเรียงสวยที่สุด โดยค่าเสียหายของเนื้อชนิดนี้อยู่ที่ 1,100 บาท ต่อ 100 กรัม โดยทางร้านจะเสิร์ฟตั้งแต่ 200 กรัมขึ้นไป เท่ากับเนื้อวากิวเทนเดอร์ลอยจานนี้ สนนราคาอยู่ที่ 2,200 บาทนั่นเอง นอกจากเนื้อวากิวแล้วที่นี่ก็ยังมีเนื้อไทยและเนื้ออสเตรเลีย รวมไปถึงซีฟู้ดให้บริการอีกด้วย

เนื้อวากิวเทนเดอร์ลอยเกรด A5 ขนาด 200 กรัม ราคา 2,200 บาท

เวลาเปิด: ทุกวัน วันละ 2 รอบ ได้แก่ 11.30-14.00 น. และ 17.30-22.30 น.
ที่ตั้งร้าน: โครงการนาราเพลส ซอยสาธุประดิษฐ์ 19
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook หรือโทร 02-674-1072

6) Yakiniku Rising (ยากินิขุ ไรซิ่ง)

ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ที่ตั้งอยู่ในโครงการนิฮอนมาชิ ซอยสุขุมวิท 26 ความพิเศษของที่นี่คือ บริการบุฟเฟต์ที่มีให้เลือกตั้งแต่ราคา 599, 1,199 และ 1,499+++ บาท โดยราคา 1,499 บาทนั้น เป็นบุฟเฟต์พรีเมี่ยมที่สามารถสั่งเนื้อวากิวได้แบบไม่อั้นอีกด้วย โดยเนื้อวากิวของที่นี่เป็นเนื้อเกรดพรีเมียม นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นเช่นกัน

โดยนอกจากเนื้อวากิวก็ยังมีเมนูอื่น ๆ อย่างเช่น ขาปูทาราบะ, กุ้งแม่น้ำ และแซลม่อน รวมไปถึงบรรดาของหวานและไอศกรีมให้ได้เลือกทานกันตามความชอบอีกด้วย

บุฟเฟต์เซ็ท 1,499+++ บาท รวมเนื้อวากิว สั่งได้ไม่อั้น

เวลาเปิด: วันจันทร์ – วันศุกร์ 17.30-00.00 น., วันเสาร์ – วันอาทิตย์ 11.30-22.00 น.
ที่ตั้งร้าน: โครงการนิฮอนมาชิ, สุขุมวิท 26
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร 02-260-4420