บทสัมภาษณ์พิเศษ DJ Benz

บทสัมภาษณ์พิเศษ DJ Benz

DJ Benz ถือว่าเป็นหนึ่งในดีเจหน้าๆ ของไทยที่มีประสบการณ์ดีเจมากถึง 10 ปี ในช่วงระหว่างปี 2004 และ 2011 เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันดีเจต่างๆ และยังได้รับตำแหน่งรองแชมป์จากการเข้าแข่ง Pioneer Asia Pacific Champion 2010 นอกจากนั้น เขายังไปทัวร์หลายที่ในโซนเอเซียอย่าง ญี่ปุ่น ไต้หวัน และเกาหลี และได้เป็นดีเจเล่นอยู่หลายที่ในไทยอีกด้วย ซิงเกิ้ลล่าสุดที่ร่วมกับดีเจ Flash Finger จากเกาหลีอย่าง "Rewind" ในปี 2016 ก็ได้ฮิตติดอันดับ 5 ของ ชาร์ต Beatport Progressive House

ทาง Siam2nite ก็ได้มีโอกาสได้พบกับเขาเป็นการส่วนตัว เพื่อพูดคุยอัพเดทถึงเรื่องราวและผลงานของเขา เราไปทำความรู้จักกับ DJ Benz พร้อมกันเลยดีกว่า

© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite

คุณแนะนำตัวให้คนที่ยังไม่รู้จักชื่อ DJ Benz ได้ไหม?

ผมชื่อ ดีเจ เบนซ์ นะครับ ชื่อจริง ประกาศิต พวงเงิน ผมเป็นดีเจอยู่ในวงการดีเจเมืองไทยตั้งแต่อายุประมาณ 17-18 รวมแล้วก็ประมาณ 13-14 ปีแล้ว ผมเริ่มต้นจากการแข่งขันดีเจครับ

ทำไมถึงใช้ชื่อว่า DJ Benz?

ผมภูมิใจชื่อนี้เพราะเป็นชื่อที่พ่อแม่ตั้งให้ สำหรับผมเรื่องสถาบันครอบครัวค่อนข้างจริงจังหน่อย อีกอย่างเราใช้ชื่อนี้มาแล้ว ทุกคนจะจำหมดแล้วว่าเราคือเบนซ์ การที่เราไปเปลี่ยนชื่อใหม่มันเหมือนเราเริ่มต้นจากศูนย์ คือก็ต้องมาเริ่มสร้างชื่อใหม่อีก พูดง่ายๆคือต้องสร้างแบรนด์ใหม่ และผมก็พยายามใช้คำว่า ดีเจ เพราะอยาก present ตัวเองว่าผมคือดีเจที่สามารถทำเพลงได้ ผมไม่ใช่โปรดิวเซอร์ที่เล่นดีเจได้

คุณเล่าถึงประสบการณ์และความสำเร็จของการเป็นดีเจหน่อยได้ไหม?

การแข่งขันแรกของผมคือ Khaosan Countdown DJ ปี 2004 แล้วพอปีถัดไปก็ไปแข่ง Pioneer DJ Champion แล้วได้แข่งอีกทีในปี 2009 ผมก็ได้รางวัลรองแชมป์ หลักๆ เลย มาพีคอยู่ช่วง ปี 2009 - 2011 ตอนผมได้แชมป์ Pioneer ที่นาซีซัส (Narz)

ช่วงปี 2010 ผมก็จะมีแข่งในส่วนของ Champ of the Champ เพื่อชิงแชมป์แชมป์ที่ดีที่สุดของ Pioneer ในเมืองไทยเพื่อเอาคนที่ดีที่สุดไปแข่งในเอเชียแปซิฟิคทั้งหมดครับผม ผมก็ชนะ Champ of the Champ แล้วก็ไปแข่งเอเชียแปซิฟิคได้รองแชมป์มา พอกลับมาเมืองไทยก็มาแข่งอีกรอบ ก็ได้แชมป์ของทาง Zoom

© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite

DJ Benz ที่ Route 66 Club RCA (พฤษภาคม 2015)

คุณเริ่มเข้ามาข้องเกี่ยวกับดนตรีอิเล็กทรอนิคได้อย่างไร และคุณเริ่มงานดีเจและโปรดิวเซอร์เมื่อไร และอย่างไร?

หลังจากการแข่งขันในปี 2010 ผมก็เริ่มผันตัวมาทำเพลง และมาเป็นโปรดิวเซอร์บ้าง แต่ก็ยังไม่ได้โดดเด่นเท่าไหร่ พอมาช่วงหลัง ประมาณปี 2016 ผมก็ได้ไปรู้จักกับทาง Flash Finger ซึ่งเขาเป็นดีเจโปรดิวเซอร์ และเป็นสมาชิกของวง Beat Burger ของค่าย SM Town และเขาก็เป็นเจ้าของค่ายเพลง ถือว่าเป็นค่ายเพลง EDM อันดับหนึ่งของเอเชียก็ว่าได้ครับ เพราะเพลงเขาขึ้น Track อันดับ 1 ใน Beatport เยอะมาก พอดีเขามาเที่ยว Route 66 ตอนที่ผมเล่นอยู่ แล้วเขาก็รู้สึกว่าผมเปิดเพลงดี เขาก็วิ่งเข้ามาหาเลย เขาให้นามบัตรบอกพรุ่งนี้ว่างไหม? มาคุยกันหน่อย เขาก็ถามว่ามี track ไหม? ก็ส่ง track ไปให้เขาฟัง เขาบอกว่า track ดี เลยชวนให้ไปร่วมงานกัน

เรารู้มาว่าคุณอยู่ในแวดวงดีเจมานานมากแล้ว แต่ทำไมถึงเพิ่งเริ่มโปรโมทตัวเองนอกเหนือจากไทย?

เปล่าครับ จริงๆ แล้วผมเริ่มโปรโมทตัวเองในต่างประเทศอยู่เรื่อยๆ แต่สมัยก่อนผมอยู่กับวง เลยทำให้ไม่อาจพรีเซ้นท์ตัวเองได้ แต่พอตอนนี้ที่ออกมาทำ solo project เอง ก็ต้องพรีเซ้นท์ตัวเอง จริงๆ ก่อนหน้านี้ผมก็มีไปเกาหลีบ่อยมากนะ ผมได้มีโอกาศไปเล่นงานเฟสติวัลใหญ่ๆ เช่น Pentaport Rock ที่ถือว่า เป็นงานเฟสติวัลร็อคที่ดีที่สุดในเกาหลี ซึ่งผมได้เล่นในโซน Electronic ช่วงนั้นพวกแนว Dubstep กำลังดัง ผมก็เล่นพวก Dubstep, Electro แล้วก็มีไปเล่น Electronic Carnival ซึ่งเป็นงานที่มีทั้ง Duck Sauce ทั้ง Cazzette ไปเล่น ผมก็ไปเล่นที่นั่นด้วย นอกเหนือจากงานเทศกาลเพลงต่างๆ ก็ได้ไปเล่นที่ผับดังๆ อย่าง Club Arena, Brown และ Octagon รวมถึงงานเฟสติวัลอย่าง Jinro 360 Experience EDM Festival 2017 (กัมพูชา) และ Unitel Party Night Run (ลาว).

© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite

DJ Benz ที่ Route 66 Club RCA (ธันวาคม 2015)

คุณเล่าประสบการณ์ตอนไปทัวร์ที่ญี่ปุ่นได้ไหม?

ผมไปเล่นที่โอซาก้าครับ มันเป็นงานเฟสติวัลแบบท้องถิ่นที่ดีที่สุดของญี่ปุ่นเขาเลย แล้ววันถัดมาก็เล่นที่ Club Ammona ซึ่งถือว่าเป็นคลับโด่งดังอยู่ที่โอซาก้าเช่นกัน

เฟสติวัลไหนทำให้คุณประทับใจมากที่สุด?

เยอะมากเลยนะ เล่นที่ไหนผมก็ประทับใจหมดเลย แต่ถ้าถามว่าที่ที่เล่นแล้วผมประทับใจมากที่สุดคือ ที่ Octagon ครับ คือคนเกาหลีเขาค่อนข้างจะเข้าใจเพลงเรา พอไปแล้วเขาค่อนข้างจะให้เกียรติเรา

เล่นในคลับกับที่เล่นที่เฟสติวัลมันแตกต่างกันมากไหม?

ทุกอย่างมันแตกต่างกันอยู่แล้วครับ แนวการเปิดในคลับกับเปิดที่เฟสติวัลต่างกันโดยสิ้นเชิง คือ หนึ่ง เปิดในคลับคุณต้องใช้สายตามองผู้คน และคุณต้องมีความสามารถในการเปิดเพลงมากกว่าในเฟสติวัล เพราะในเฟสติวัลนี่มันเหมือนเซตเป็นเซต ซึ่งทุกอย่างต้องเป๊ะๆ ระหว่างแสง และ visual graphic แต่คือเวลาคุณเปิดอยู่ในคลับคุณจะเป๊ะแบบนี้ไม่ได้ เพราะวันๆ หนึ่งคนนี้มาเที่ยว อีกวันหนึ่งกลายเป็นคนอีกกลุ่มหนึ่งมาเที่ยว แล้วอย่างที่ผมเล่น 6 ที่ที่ผมเปิดเพลงไม่เหมือนกันเลย เพราะฉะนั้นคุณจะต้องแยกประสาทสัมผัสว่า 2 ชั่วโมงนี้คุณเปิดอยู่ที่นี่ เพราะใน 1 วันเราอาจไม่ได้เปิดที่เดียว อย่างตอนแรกคุณเปิด Nu Disco หรือ Deep House อยู่ แต่ก็ต้องกลับมาเปลี่ยนโหมด คือคุณต้องมีเพลงของตนเองเอาไว้เผื่อเยอะๆ แล้วคุณต้องจำเพลงพวกนี้ของตนเองให้ได้ด้วย

© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite

DJ Benz ที่ EDM Boat Party (พฤศจิกายน 2016)

คุณช่วยนิยามสไตล์เพลงของคุณได้เราฟังหน่อยได้ไหม อะไรคือสไตล์ที่แท้จริงของคุณ?

อันนี้คือเกี่ยวกับการเซตเพลงนะครับ ผมชอบการเซตเพลงโดยหลักๆ คือ EDM ครับ เพราะผมเป็นคนที่ฟังเพลงเยอะมาก ผมเลยชอบเอาเพลงมา bootleg คือเซตของผมเนี่ยผมจะสร้างใหม่หมดเลย ให้คนจำว่านี่มันเป็นเพลงของผม รู้เลยว่านี่คือเบนซ์นะ มันเลยทำให้เราดูสนุกยิ่งขึ้น

Play Icon
Flash Finger & DJ Benz feat. Rosendale - Rewind (Official Lyrics Video)

นอกจากเพลง Rewind ปี 2016 แล้ว มีผลงานเพลงรีมิกซ์อันไหนของคุณอยากจะมาแนะนำคน ที่ยังไม่เคยได้ยินหรือไม่คุ้นกับเพลงของคุณไหม?

ส่วนใหญ่ผมจะนำเพลงดังๆ มารีมิกซ์เป็นเวอร์ชั่นของตัวเอง เช่น เพลง Mad World ของ Hardwell หรือของ Kygo เพลง Firestone สามารถเข้าไปเช็คที่ SoundCloud ผมได้

Kygo - Firestone (Dj Benz Remix)
Hardwell - Mad World (DJ Benz Remix)
Jenil - The Kingdom (DJ Benz Remix)
TM303 - Kuad Diew (DJ Benz Bassmix)
TM303 - 200 (DJ Benz Trapmix)

การที่ได้รู้จักกับดีเจจากต่างประเทศมันทำให้เราเปลี่ยนแนวคิดของเราหรือเปล่า?

แน่นอนครับ เพราะการที่เราอยู่แต่เมืองไทย เราก็จะคิดว่าเราโอเคแล้ว การออกไปต่างประเทศนั้น เราสามารถเจอและรู้จักกับผู้คนใหม่ๆ เหมือนเราไปต่างพื้นที่มันก็จะต่างกันไปหมด เราได้รู้จักเพื่อนเพิ่มขึ้น มันก็จะทำให้เรามีคอนเน็คชั่นขึ้น พยายามสร้าง network ให้ตัวเองได้ครับ

ชอบเล่นเพลงเป็นพิเศษไหม?

ต้องยกให้เพลง Bring That Beat ของ Bassjackers เลย ผมชอบมากเลย การ transition ของเขาและตอน breakdown ด้วย เวลาพวกเขาทำเพลงออกมาจะทำ EDM มาค่อนข้างแตกต่างจากคนอื่น ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากร่วมงานกับพวกเขา

ถ้าอยากเจอตัวจริงไปเจอคุณได้ที่ไหนบ้าง?

ตอนนี้ผมเล่นประจำอยู่ที่ Route66 club, NOIZ (วิป), DNA Club, Octave Rooftop & Bar และ Mixx Discotheque ที่ กรุงเทพและพัทยาครับ

© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite
© Siam2nite

DJ Benz ที่ The Club Khaosan (มิถุนายน 2017)

แล้วแฟนคลับนอกประเทศจะเจอคุณได้ที่ไหนบ้าง?

ส่วนที่ไต้หวัน เกาหลี และญี่ปุ่น ก็จะมีที่ไต้หวันบ่อยๆ เล่นที่ 18 Club ถือเป็นคลับที่ค่อนข้างดังอยู่ ส่วนถ้าจะ rotate หรือ exchange ก็จะไปที่ทางเกาหลีเป็นส่วนใหญ่ ก็จะมีเพื่อนที่มีเส้นสายในเกาหลี เช่น Octagon, Brown และ Arena

ตอนนี้คุณกำลังโฟกัสไปที่ผลงานอะไร และกำลังจะมีผลงานอะไรออกมาบ้างในเร็วๆ นี้ ?

ช่วงหลังๆ ผมเน้นทำในส่วนของทัวร์ คือตอนนี้ผมเชื่อว่าวงการดนตรีเมืองไทยหรือว่าวงการดนตรีไม่ว่าในเมืองไทยหรือทั่วโลก เรื่องสื่อออนไลน์มันหนักมาก ผมว่ายุคนี้ทุกคนสามารถโปรโมทตัวเองได้ ผมก็เลยลองมาทำเองทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมทตัวเอง ตัดต่อวิดีโอเอง รีมิกซ์เอง และเป็นโปรดิวเซอร์ พอทำเอง เรารู้สึกภูมิใจ แม้ว่าจะเหนื่อย เแต่สนุกและภูมิใจกับสิ่งที่ทำตอนนี้

ตอนนี้ผมมีสตูดิโออยู่ที่ลาดพร้าว 101 ชื่อ B-Side Sound Studio ซึ่งเป็น home studio โดยเกิดจากไอเดียเล็กๆ ของผมที่ต้องการจะถ่ายทอดความสามารถ และประสบการณ์ที่สะสมมานานกว่า 15 ปี บนเส้นทางสายดีเจและโปรดิวเซอร์จนเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศให้กับคนรุ่นใหม่ในวงการดีเจไทยครับ

ความทรงจำไหนเกี่ยวกับการเป็นดีเจทำให้คุณประทับใจมากที่สุด?

เพลง Rewind ที่ขึ้นอันดับ 5 ของเพลงแนว Progessive บน Beatport ครับ เพราะถือว่าเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ขึ้นชาร์ตสูงสุด คือขึ้นอันดับ 5 แล้วยังติดท็อป 100 ของทาง Beatport ที่เป็นตัวรวมหน้าเว็บครับ ผมไม่ได้คิดเลยว่าจะติดอันดับสูงขนาดนั้น คิดแค่ว่าได้ท็อป 100 ของ Progressive ก็พอใจแล้ว คือวันแรกขึ้นมาท๊อป 50 แล้วตกใจเพราะมันคือเพลงแรก ก็คุยกับ Flash ว่าได้ท็อป 50 ก็ดีใจแล้ว แล้วภายใน 1 สัปดาห์ขึ้นไปท๊อป 20 พอผ่านมาวันที่ 8 ขึ้นมาเป็นท๊อป 5 มันทำให้เรามีกำลังใจ

ผลงานเพลงอื่นๆ ที่ได้การตอบรับเป็นอย่างดีคือแทร็คที่ผลิตภายใต้ค่ายเพลง G*High อย่าง "Bells of Siam" ซึ่งได้ติดอันดับ #6 บนชาร์ต Beatport Groove House และ #8 บนชาร์ต Beatport Bigroom ส่วนแทร็ค "Feel Good" ที่ได้ร่วมกับ DJ Tong Apollo (Peak Hour Records) นั้นได้ติดอันดับ #21 บนชาร์ต Beatport Electro House และยังได้รับการสนับสนุนจาก Ummet Ozcan และ Chuckie ส่วนแทร็ค "Your Body" ที่ร่วมกับ Ferry จากสวิตเซอร์แลนด์ ก็ได้เป็นหนึ่งในแทร็คที่ขายดีที่สุดของ NHR (ภายใต้ค่ายเพลง YG Entertainment) ผมได้มีโอกาสขึ้นไปเปิดงานของ Spacejam Music Festival 2017 และ Fullmoon Festival 2017 อีกด้วย

Flash Finger, Rosendale & DJ Benz - Rewind (Original Mix)
Richard Grey, Pay & White, DJ Benz & Nick Frames - Instagram DJ (Original Mix)
Richard Grey, Pay & White, DJ Benz & Nick Frames - Bells Of Siam (Original Mix)
Tong Apollo & DJ Benz - Feel Good (Original Mix)
Ferry & BNZ - Your Body (Original Mix)

มีโครงการอยากไปยุโรปบ้างอเมริกาบ้างมั้ย?

ในอนาคตแน่นอนครับ ตอนนี้ผมอยากโฟกัสในสิ่งที่ใกล้ตัวให้มันสุดก่อน เราอยู่ตรงนี้ สมมุติถ้าไปเล่นที่ยุโรปตอนนี้ ก็คงไม่มีคนรู้จัก ค่อยๆ สร้างชื่อเสียงจากตรงนี้ก่อนดีกว่า ในอนาคตจะได้มีคนรู้จัก DJ Benz มากขึ้น

© White Castle Music Festival TH
© White Castle Music Festival TH

DJ Benz & Tong Apollo ที่ White Castle Music Festival (กันยายน 2017)

มีคำแนะนำอะไรในการที่จะเป็น ดีเจ ที่ประสบความสำเร็จไหม?

เราต้องสร้างภาพลักษณ์ของเราก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเซตหรือเพลง สมัยนี้คุณต้องทำเพลง เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องไปพึ่งค่าย คุณสามารถโปรโมทด้วยตัวคุณเอง มีสื่ออนไลน์ที่ดี เพราะเวลาคุณไปต่างประเทศ เขามองจากสื่อออนไลน์ของคุณ เขาไม่รู้หรอกว่าคุณเก่งขนาดไหน ตอนนี้โลกมันอยู่ที่สื่ออนไลน์หมดเลย นึกถึงว่าเราคือสินค้า 1 ชิ้นที่อยู่ตามห้างสรรพสินค้าอย่างเช่น ปลากระป๋อง มียี่ห้อเป็นสิบเพราะอย่างนั้น จะทำอย่างไรให้เขาหยิบของเราออกมา มันคือโจทย์ที่คุณจะต้องคิดต่อไป

Klook.com

บทความอื่น

รวมบทความน่าสนใจ โดยทีม Siam2nite

  1. MTV European Music Awards 2017: Slot Machine และ เป๊ก-ผลิตโชค ติดโผศิลปินไทยเข้าชิงรางวัล EMAs

    MTV European Music Awards 2017: Slot Machine และ เป๊ก-ผลิตโชค ติดโผศิลปินไทยเข้าชิงรางวัล EMAs

    MTV เป็นหนึ่งในแบรนด์ของเคเบิลทีวีบันเทิงสากลอันดับหัวแถวที่มีคุณภาพมากที่สุดแบรนด์หนึ่งในอุตสาหกรรมดนตรี เนื่องด้วยตลอดหลายปีที่ผ่านมา MTV เป็นตัว...

    ดนตรี · 2 พฤศจิกายน 2017
  2. บทสัมภาษณ์พิเศษ John Askew

    บทสัมภาษณ์พิเศษ John Askew

    John Askew ดีเจและโปรดิวเซอร์สไตล์ Trance และ Tech-Trance ชาวอังกฤษ ที่เป็นที่รู้จักกับผลงานเพลง "Shine" และ "Supersonic" รวมถึงผลงานรีมิกซ์ของ Arm...

    ดนตรี · 30 ตุลาคม 2017
  3. DJ Mag Top 100 Djs 2017: ศิลปินคนไหนติดชาร์ทเป็นครั้งแรกในปีนี้

    DJ Mag Top 100 Djs 2017: ศิลปินคนไหนติดชาร์ทเป็นครั้งแรกในปีนี้

    เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา งานประกาศผลรางวัล Top 100 DJs ได้ถูกจัดขึ้นที่ Amsterdam Arena ในช่วงที่มีการจัดงาน Amsterdam Dance Event (ADE) โดยงานนี้ถูก...

    ดนตรี · 24 ตุลาคม 2017
  4. บทสัมภาษณ์พิเศษ NOIR

    บทสัมภาษณ์พิเศษ NOIR

    NOIR ดีเจและโปรดิวเซอร์สไตล์ House และ Techno อีกทั้งยังเป็นเจ้าของค่ายเพลง จากประเทศเดนมาร์ก เขาเป็นที่รู้จักดีจากผลงานเพลง “All About House Music...

    ดนตรี · 19 ตุลาคม 2017

ซีรีส์บทความ

เรื่องราวดีๆ ที่เราเลือกสรรมาอัพเดทให้คุณเป็นประจำ